NAD THERAPY

ในยุคที่ต้องเผชิญกับปัญหามลภาวะ ฝุ่น เชื้อโรคต่างๆ ส่งผลให้ใครหลายๆ คนต่างหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น จึงขอแนะนำบริการน้องใหม่อย่าง NAD+ Therapy อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะมอบความอ่อนเยาว์ให้คุณพร้อมกับสุขภาพที่ดี ภูมิต้านทานที่ดีจากภายใน

NAD+ Therapy คืออะไร

คือหัตถการช่วยชะลอวัยด้วยการให้วิตามินผ่านทางหลอดเลือดดำด้วยตัวยา “InfiNADi NAD+ PROTOCOL” เพื่อให้ตัวยาเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรงทำให้ร่างกายสามารถรับสารบำรุงจากตัวยาวและดูดซึมนำไปได้อย่างเต็มที่และรวดเร็วกว่าการทานโดยไม่ต้องผ่านระบบย่อยอาหารทำให้ร่างกายได้รับวิตามินในตัวยาถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในตัวยาจะประกอบไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างมากมาย

แล้วคำว่า NAD+ คืออะไร

NAD+ ย่อมาจากคำว่า Nicotinamide adenine dinucleotide เป็นโคเอนไซม์ที่สามารถเกิดขึ้นได้เองในร่างกายของมนุษย์ ที่ถือเป็นสารส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเซลล์ในระดับ DNA ซึ่งเมื่อมีอายุที่มากขึ้นร่างกายของเราก็จะผลิต NAD+ ออกมาได้น้อยลงส่งผลที่ทำให้เกิดความชรา โดยได้มีงานวิจัยออกมาว่าเมื่ออายุ 50 ปี NAD+ ในร่างกายจะลดเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของวัยอายุ 20 ปี และเมื่อมีอายุ 80 ปี NAD+ จะลดเหลือเพียงแค่ 20% เท่านั้น

จุดเด่นของ NAD+ Therapy

นอกจากจะช่วยในเรื่องของการชะลอวัยแล้ว NAD+ Therapy ยังมีจุดเด่นอีกหลายอย่างด้วยกันที่จะช่วยฟื้นดูและดูแลร่างกายจากภายใน

เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ

ซึ่งจะมีการสกัดหลักๆ อย่าง วิตามินบีและ NAD+ (Nicotinamide adenine dinucleotide) เป็นสารที่พบได้ในร่างกายมนุษย์จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยหลังทำ

ช่วยฟื้นและบำรุง

เพราะหลังจากทำแล้วตัวยาจะเข้าไปช่วยรักษาและช่วยเร่ง กระบวนการฟื้นฟูของเซลล์ที่ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการชะลอวัย

NAD+ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างมากในการสร้างเซลล์ ATP ที่ถือเป็นแหล่งพลังงานของร่างกายทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายมีความแข็งแรงและสมบูรณ์ขึ้น

สร้างสมดุลให้แก่ร่างกาย

หลังจากทำตัวยา NAD+ Therapy จะเข้าไปปรับความสมดุลในร่างกายด้วยการซ่อมแซมไมโตคอนเดรียให้แข็งแรง ซึ่งไมโตคอนเดรียถือเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของเซลล์

ช่วยเสริมภูมิต้านทาน

นอกจากนั้นตัว NAD+ Therapy ยังมีส่วนช่วยในการป้องกันและฟื้นฟูระบบประสาทช่วยให้ สุขภาพของสมองแข็งแรงและทำงานได้ดีขึ้น

ประโยชน์ของ NAD+ Therapy ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

NAD+ Therapy มีอยู่มากมายหลายข้อด้วยกันโดยหลักๆ จะเน้นในเรื่องของสุขภาพ การชะลอวัย รวมไปถึงการดูแลผิวซึ่งถือเป็นการดูแลจากภายใน เราข้อสรุปประโยชน์ของ NAD+ Therapy เป็นข้อๆ ดังนี้

• ช่วยชะลอวัย ทำให้ดูเด็กขึ้น

• ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง ชุ่มชื้นและอ่อนเยาว์

• ช่วยฟื้นฟูร่างกาย ให้แข็งแรงหลังจากติด โควิด-19

• ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า พร้อมทั้งช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย

• ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

• ช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลหรือเครียดได้ดี

• ช่วยลดความเจ็บปวดจากอาการอักเสบต่างๆ

• ช่วยในเรื่องของการลดและควบคุมน้ำหนักได้ดี

• ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานระบบประสาทสมองและความจำ

• ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น

NAD+ Therapy เหมาะกับใครบ้าง

ก็ต้องบอกเลยว่า NAD+ Therapy เป็นหัตถการเหมาะกับใครหลายๆ คนอย่างมากที่มีความสนใจและใส่ใจในเรื่องสุขภาพ

1. เหมาะกับผู้ที่สนใจในเรื่องของศาสตร์การชะลอวัย

2. เหมาะกับผู้ต้องการการรักษาของระบบสมองเพื่อป้องกันการ อาการสมองเสื่อม

3. เหมาะกับผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการหลังติดโควิด-19 เพื่อฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงยิ่งขึ้น

4. เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มพลังให้แก่ร่างกายเพื่อลดอาการเหนื่อยล้าจากกิจกรรมต่างๆ

5. เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาท ให้กลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้น

6. เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความแข็งแรงของระบบกล้ามเนื้อต่างๆ ในร่างกาย

7. เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมน้ำหนัก

ใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็อาจจะคิดว่าเหมาะกับผู้สูงอายุขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นความจริงเลยเพราะตั้งแต่อายุ 25+ ก็สามารถรับวิตามินตัวนี้ได้เพื่อยืดอายุเซลล์ต่างๆ ในร่างกายและฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ใครบ้างที่ไม่ควรทำ NAD+ Therapy

• สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร

• ผู้ที่เป็นโรคไต ไตล้มเหลว

• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจและความดันโลหิต

ขั้นตอนการทำ NAD+ Therapy เป็นอย่างไร

ถือเป็นหัตถการที่มีขั้นตอนการทำไม่ได้ยุ่งยากโดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 30-45 นาทีต่อครั้ง ซึ่งจะมีขั้นตอนการทำดังนี้

1. นำตัวยาผสมกับน้ำเกลือ

2. เปิดเส้นที่แขนของคนไข้ด้วยเข็มขนาดเล็ก

3. จากนั้นจะค่อยๆ ปล่อยให้ตัวยาไหลเข้าสู่เส้นเลือดของคนไข้จนหมดถือเป็นอันเสร็จ

อาการและผลข้างเคียงหลังทำ NAD+ Therapy

ในระหว่างการให้ยาอาจเกิดอาการมึนศีรษะ แน่นหน้าอก หรือมวนท้องซึ่งกรณีนี้มักเกิดจากคนไข้มีอาการวิตกกังวลก่อนทำ ซึ่งคนไข้สามารถแจ้งแพทย์ผู้ดูแลเพื่อปรับการดริปยาให้ช้าขึ้นได้ และอาการดังกล่าวจะหายไปเองเมื่อให้ยาเสร็จ และในบางรายอาจเกิดรอยเข็มขึ้นได้หลังจากทำ ซึ่งสามารถใช้การประคบเย็นเช้าช่วยเพื่อให้รอยจางไวขึ้น

NAD+ Therapy ควรทำบ่อยแค่ไหน

แนะนำให้เข้ารับการทำ NAD+ Therapy อย่างน้อยเดือนละ1 ครั้งหรือตามคำแนะนำของแพทย์ โดยครั้ง 2-3 เป็นต้นไปสามารถเพิ่มเติมตัวยา วิตามินอื่นๆ เข้าไปร่วมด้วยได้ขึ้นอยู่อายุและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไข้

ซึ่งแนวทางในการทำ NAD+ Therapy ที่แพทย์หลายๆ คนแนะนำว่าจะช่วยให้เห็นผลไวจะมีดังนี้

• สำหรับการเริ่มต้นใช้ครั้งแรก 5 ขวด ภายใน 2 วันติดต่อกัน

• สำหรับชะลอวัย ANTI-AGING 15 ขวด ภายใน 1-3 สัปดาห์

• สำหรับเสริมระบบภูมิคุ้มกัน IMMUNE 5 ขวด ภายใน 2 วันติดต่อกัน

• สำหรับการฉีดกระตุ้นเพิ่มเติม BOOSTER 3-5 ขวด แนะนำรายเดือนหรือตามความจำเป็น

หลังทำ NAD+ Therapy มีข้อห้ามอะไรบ้าง

จริงๆ แล้วการทำ NAD+ Therapy ไม่มีข้อห้ามอะไรเลย เนื่องด้วยตัวยามีส่วนผสมของวิตามินบีและ NAD+ ซึ่งเทียบเท่ากับการทานวิตามินต่างๆ เข้าร่างกายเท่านั้น แต่จะมีข้อควรระวังคือ หากเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งแนะนำให้เข้ารับการทำเคมีบำบัด (คีโม) ให้เสร็จสิ้นก่อน

NAD+ Therapy กับ NAD+ IV Therapy ต่างกันอย่างไร

คำตอบคือเหมือนกัน เพราะ IV Therapy เป็นการดริปวิตามินเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงเพื่อให้ร่างกายได้รับสารวิตามินต่างๆ ได้อย่างครบ 100 เปอร์เซ็นต์ซึ่งจริงๆ แล้ว NAD+ Therapy ถือเป็นตัวยาชนิดหนึ่งในหัตถการ IV Therapy นั่นเอง